ศาลาการเปรียญ(ศาลา 84 ปี)
ศาลาการเปรียญ (ศาลา ๘๔ ปี พระเทพเจติยาจารย์)
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารอเนกประสงค์หลังใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบกิจกรรมต่างๆ ในทางพุทธศาสนาอาทิ เป็นสถานที่ทำวัตร สวดมนต์ อบรมสมาธิภาวนาของพระภิกษุสามเณร รวมทั้งอุบาสกอุบาสิกา โดยมีการแสดงพระธรรมเทศนา และเป็นที่ฉันภัตตาหารของพระภิกษุสามเณรทั้งวัดศาลาการเปรียญจัดเป็นศาสนสถาน ที่สำคัญของวัด รองลงมาจากอุโบสถโบราณว่า อุโบสถเป็นที่สำหรับพระพุทธ ศาลาการเปรียญเป็นที่สำหรับพระธรรม คือเป็นที่เผยแผ่ธรรมกุฏิเป็นที่สำหรับพระสงฆ์ ดังนั้นศาลาการเปรียญจึงถูกสร้างให้ใหญ่พอสำหรับเป็นที่รองรับคนจำนวนมากได้วัดใดมีชาวบ้านทำบุญมากจำต้องสร้างศาลาให้ใหญ่เข้าไว้ หากศาลาเล็กคับแคบ จะทำให้ดูแน่นการบำเพ็ญบุญ และศาสนาพิธีต่าง ๆ ก็ไม่สะดวก
เหตุที่เรียกว่า ศาลา ๘๔ ปี พระเทพเจติยาจารย์ เนื่องจากศาลาการเปรียญของวัดธรรมมงคลมีการบูรณะ ปรับปรุง ขยาย ต่อเติมมาจากศาลาหลังแรกซึ่งเป็นหลังคามุงจาก จุคนได้ประมาณ ๓๐ คน ตั้งแต่ พุทธศักราช ๒๕๐๕ เมื่อครั้งที่พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโรมาสร้างวัดธรรมมงคลใหม่ ๆ ต่อมาเห็นว่าชาวบ้านเริ่มสนใจเข้าวัดทำบุญมากขึ้น เนื้อที่ศาลาที่มีอยู่จึงดูแคบไป
ปีพุทธศักราช ๒๕๑๐ ได้ทำการปรับปรุงศาลาใหม่ให้สามารถรองรับได้ถึง ๑๐๐ คน
ปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ ได้ทำการปรับปรุงศาลาใหม่ให้สามารถรองรับได้ถึง ๕๐๐ คน
ปีพุทธศักราช ๒๕๒๙ ได้ทำการปรับปรุงศาลาใหม่ให้สามารถรองรับได้ถึง ๑,๐๐๐ คน
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ ปรับปรุงศาลาใหม่ โดยยกพื้นสูง ๒ ชั้น ขยายปีกออกสี่ด้าน ทำการมุงหลังคาใหม่ ปูพื้นใหม่ ฯลฯ
แล้วเสร็จปี พุทธศักราช ๒๕๔๗ ปีการฉลองอายุวัฒนมงคล ครบรอบ ๘๔ ปี พระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร)จึงเรียกศาลาการเปรียญนี้ว่า ” ศาลา ๘๔ ปี พระเทพเจติยาจารย์ “ภายในศาลา ๘๔ ปี ชั้นบน ประดิษฐานพระมงคลบพิตร เป็นพระประธานหล่อด้วยทองเหลืองปางมารวิชัยมีขนาดหน้าตักกว้าง ๑.๖๐ เมตร สูง ๒.๒๐ เมตร
บริเวณชั้นสองประดิษฐาน พระพุทธมงคลบพิตร(หลวงพ่อพุทธมงคล)
พระพุทธมงคลบพิตร เป็นพระประธานประจำอุโบสถวัดธรรมมงคล (ปัจจุบันย้ายไปประดิษฐานบนศาลาการเปรียญเป็นการชั่วคราว พระอุโบสถกำลังสร้างใหม่) สร้างด้วยศิลปะร่วมสมัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดช และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จเททองหล่อเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๐๙ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ขณะนั้น) ทรงถวายพระนามว่า
พระพุทธมงคลบพิตร วิชิตสรรพโรคาพาธ
ประสาธน์สันติสุขสวัสดี ประสิทธิศรีสรรพมงคล
สกลวิสุทธิธรรมโลกนาถ